เทศบาลเมืองลำพูน ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน จัดแข่งขัน “โคมลอยแฟนซี” สืบสานประเพณีล้านนา สร้างเสน่ห์สีสันยี่เป็งลำพูน

วันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 เทศบาลเมืองลำพูน ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน และโครงการวิจัย “การพัฒนาเมืองแห่งทุนวัฒนธรรมที่ยั่งยืน และเครือข่ายย่านวัฒนธรรมชุมชน โดย มหาวิทยาลัยศิลปากร ด้วยทุนวิจัยจาก “หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่” (บพท.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) จัดการประกวดการปล่อย “โคมลอย” หรือที่คนล้านนาโบราณเรียกว่า “ว่าวควัน” (ว่าวฮม)  ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมของงานประเพณีลอยกระทงจังหวัดลำพูน ประจำปี 2567 สืบสานวัฒนธรรม ส่งเสริมและอนุรักษ์ประเพณี บอกเล่าเรื่องราววัฒนธรรมที่งดงามให้รุ่นลูกรุ่นหลานได้ซึมซับผ่านจารีต ขนบธรรมเนียมดั้งเดิม

โดย นายประภัสร์ ภู่เจริญ นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน เป็นผู้กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการจัดงาน และนายชาตรี ธินนท์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน กล่าวเปิดการแข่งขัน พร้อมปล่อยโคมลอย ในพิธีเปิดงานซึ่งเป็น “โคมหมูเด้ง” จากนั้น เป็นการแข่งขันปล่อยโคมลอยประเภทนักเรียน/นักศึกษาและประชาชน ซึ่งรับความสนใจจากนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะโคมลอยแฟนซีขนาดใหญ่ ทั้งรูปทรงกลม ทรงเหลี่ยม รูปตัวการ์ตูนในวรรณคดีของไทย ที่ทำมาจากกระดาษว่าวสีสันสวยงามและมีส่วนประกอบที่เป็นลูกเล่น ทั้งติดร่มชูชีพ ติดเครื่องบินเล็กที่หาง ซึ่งผลการประกวดโคมลอย ทั้ง 2 ประเภท คือ

  1. การประกวดโคมลอย ประเภทนักเรียน/นักศึกษา ได้แก่
  • รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมโรงเรียน อบจ.ลำพูน ป่าป๋วย ทีม A ได้รับเงินรางวัล จำนวน 3,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมช่างกล by มิตรภาพโคมลอย ได้รับเงินรางวัล จำนวน 2,500 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมโรงเรียน อบจ.ลำพูน ป่าป๋วย ทีม B ได้รับเงินรางวัล จำนวน 2,000 บาท
  1. การประกวดโคมลอย ประเภทประชาชนทั่วไป ได้แก่
  • รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมเทพยักษ์ (โคมนรสิงห์) ได้รับเงินรางวัล จำนวน 10,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 1 ได้แก่ ทีมลั่นนคร (โคมพญาครุฑ) ได้รับเงินรางวัล จำนวน 7,000 บาท
  • รางวัลรองชนะเลิศ อันดับที่ 2 ได้แก่ ทีมเด็กกลางทุ่งสารภี (โคมม้านิลมังกร).ได้รับเงินรางวัล จำนวน 5,000 บาท

ทั้งนี้ การปล่อยโคมลอยตามความเชื่อของชาวล้านนา เป็นการลอยเพื่อบูชาพระเกศแก้วจุฬามณีบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตลอดจนเป็นการสานต่อภูมิปัญญาท้องถิ่น ถือเป็นมรดกทางวัฒนธรรม จึงควรค่าแก่การอนุรักษ์ และสืบสานมาจนถึงปัจจุบัน อีกทั้งเทศบาลฯ ได้คำนึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ได้ปฏิบัติตามแนวทางและมาตรการป้องกันและลดความเสี่ยงอันตรายจากการปล่อยโคมลอย โดยแจ้งประสานท่าอากาศยาน ศูนย์ควบคุมการบินให้ทราบล่วงหน้า และจัดกิจกรรมเฉพาะช่วงเวลา 09.00 – 12.00 น. ของวันลอยกระทงเท่านั้น เพื่อร่วมสืบสานประเพณีล้านนา ควบคู่ไปกับการคำนึงถึงความปลอดภัยของประชาชน